หน้าหนาวนอกจากอากาศจะเย็นแล้ว ลมยังพัดแรงด้วย ถ้าบ้านใครอยู่ใกล้ต้นพญาสัตบรรณหรือต้อนตีนเป็ด ก็จะได้กลิ่นหอมจากดอกของมัน รู้ไหมว่าเจ้าต้นพญาสัตบรรณมีสรรพคุณเป็นยา และมีประโยชน์มากอีกด้วย
ต้นพญาสัตบรรณคือ
หรือ สัตบรรณ หรือ ตีนเป็ด เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 12–20 เมตร อยู่ในวงศ์ Apocynaceae มีถิ่นดั้งเดิมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบได้ทุกภาคในประเทศไทย และเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาคร
ลักษณะของต้น
- ต้น มีเปลือกหนาแต่เปราะ ผิวต้นมีสะเก็ดเล็ก ๆ สีขาวปนน้ำตาลกรีดดูจะมียางสีขาวลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามาก
- ใบ เป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งมีใบประมาณ 5–7 ใบ ก้านใบสั้น แผ่นใบรูปรีแกมรูปขอบขนานถึงรูปหอกแกมรูปขอบขนาน หรือรูปมนแกมรูปบรรทัด ออกดอกสีเขียวอ่อนเป็นช่อตามปลายกิ่ง ปากท่อของกลีบดอกมีขนยาวปุกปุย
- ดอก มีกลิ่นฉุนรุนแรง สูดดมเพียงเล็กน้อยจะรู้สึกกลิ่นหอม หากสูดดมมากจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ช่วงค่ำจะส่งกลิ่นแรงกว่าเวลาอื่น ๆ ปกติจะออกดอกในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม
- ผล เป็นฝักยาว ฝักคู่หรือเดี่ยว เมื่อแก่จะแตก มีขุยสีขาวคล้ายฝ้ายปลิวไปตามลมได้ในฝักมีเมล็ดเล็ก ๆ ติดอยู่กับขุยนั้น
ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพ
1.เปลือกของลำต้นมีรสขม สามารถนำมาทำเป็นยาที่ช่วยในการเจริญอาหาร ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน และแก้หวัด แก้ไอ บรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ
2.เปลือกของลำต้น ช่วยรักษาโรคบิด ท้องร่วง ท้องเดินเรื้อรัง โรคลำไส้และลำไส้ติดเชื้อ
3.เปลือกของลำต้น ต้มน้ำอาบ ลดอาการผดผื่นคัน
4.ยางจากลำต้น ใช้หยอดหูแก้อาการปวดหู และใช้อุดฟันเพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน
5.ใบอ่อน นำมาต้มเพื่อดื่มรักษาโรคลักปิดลักเปิด
6.ใบ และยาง ชาวอินเดียใช้รักษาแผล แผลเปื่อย แผลตุ่มหนอง และอาการปวดข้อ
ข้อควรระวัง
จำให้ดีว่า ต้นพญาสัตบรรณหรือต้นตีนเป็ด (Alstonia scholaris) กับต้นตีนเป็ดน้ำ หรือต้นตีนเป็ดทะเล (Cerbera odollam) ไม่เหมือนกัน ต้นตีนเป็ดน้ำจะมีลำต้นเล็กกว่า และพบอยู่ริมน้ำ มีดอกสีขาวพร้อมกลิ่นอ่อนๆ ผลเป็นลูปกลมๆ ต้นตีนเป็ดจะลำต้นสูงใหญ่กว่า ดอกเป็นช่อคล้ายดอกเข็ม ผลจะออกมาเป็นฝักยาว เส้นๆ กลมเรียว และที่สำคัญคือส่งกลิ่นได้เข้มข้นรุนแรงกว่า
ต้นพญาสัตบรรณเป็นต้นไม้สูง สามารถปลูกให้ร่มเงาได้ดี ดอกมีกลิ่นหอม แต่หากสูดดมมากๆอาจทำให้เวียนศีรษะได้ และที่สำคัญเป็นสมุนไพรของไทยที่สามารถรักษาโรคได้นะคะ ประโยชน์มากจริงๆคะ