ทำความรู้จัก Skincare แต่ละเนื้อก่อนเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา Skincare (สกินแคร์) เพื่อบำรุงผิว หลาย ๆ คนอาจจะเลือกใช้ไม่ถูกเพราะในท้องตลาดมีทั้งเนื้อครีม, เนื้อโลชั่น, แบบเนื้อเจล, เนื้อเซรั่ม และเนื้อเอสเซนส์ ส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกไม่ถูกว่าควรใช้แบบไหนดี และแต่ละเนื้อนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นเราจึงนำสกินแคร์แต่ละประเภทมาแยกแยะความแตกต่าง เพื่อที่จะได้สามารถใช้ได้อย่างเหมาะสมของผิวตัวเอง

Skincare Cream (แบบเนื้อครีม)

สกินแคร์เนื้อครีม เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราคุ้นเคยมากที่สุด เนื้อครีมจะมีความเข้มข้น ซึมเข้าผิวหนังได้ช้า เพราะมีส่วนผสมของน้ำ และนำมันอยู่ด้วยกัน จึงส่งผลให้ผิวได้รับความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ สกินแคร์เนื้อครีมจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวธรรมดา หากเป็นผิวผสมก็สามารถใช้ทาบริเวณที่มีผิวแห้งได้

Skincare Lotion (แบบเนื้อโลชั่น)

สกินแคร์เนื้อโลชั่น หรือ บางแบรนด์เรียกว่า ฟลูอิด (Fluid)  มีทั้งแบบบำรุงผิวกาย และบำรุงผิวหน้า มีความเข้มข้นของเนื้อโลชั่นจะอ่อนกว่าเนื้อครีม มีความเหลวนุ่ม เพราะมีส่วนผสมของน้ำที่มากกว่า จึงมีความมันน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวผสม และผิวธรรมดา

Skincare Gel (แบบเนื้อเจล)

สกินแคร์เนื้อเจล จะมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อใช้ทาผิวจะรู้สึกเย็น ส่วนผสมหลักจะเป็นน้ำ และไม่น้ำมัน หรือมีน้อยมากจึงไม่ค่อยให้ความชุ่มชื้นต่อผิวมากเท่าไหร่นัก เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย และผิวมัน

Skincare Serum (แบบเนื้อเซรั่ม)

สกินแคร์เนื้อเซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์ Oil-Based ที่มีความเข้มข้นของ active ingredients สูง มีความเข้มข้นสูง แต่เนื้อบางเบา จึงซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย และรวดเร็ว เซรั่ม มีการผลิตออกมาให้เหมาะกับทุกสภาพผิว และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการอยากฟื้นฟูสภาพผิวแบบเร่งด่วน สามารถใช้บรรเทาผิวที่ระคายเคืองจากการโกนหนวด แต่การใช้เซรั่มให้มีประสิทธิภาพสูงควรใช้ร่วมกับสกินแคร์ชนิดอื่น เช่น ครีมหรือเจล เพื่อบำรุงผิวชั้นนอก เป็นต้น

Skincare Essence (เนื้อเอสเซนส์)

เป็นสกินแคร์ที่ซึมซับเข้าสู่ชั้นในได้รวดเร็วเหมือนเซรั่ม เนื้อเจลจะใส ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับผู้ที่มีผิวผสม ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย และผิวบอบบาง หากใช้เนื้อแบบเนื้อเจล ก็ไม่ควรใช้รั่ม ควรเลือกใช้เพียงตัวเดียวเท่านั้น

ทั้งหมดนี้คือเนื้อผลิตภัณฑ์ Skincare แต่ละประเภทที่มีคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่จะเลือกใช้ควรต้องมองถึงสภาพผิวของตัวเองเพื่อจะได้ใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ในการดูแลผิวของตัวเอง